นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ คือก้อนของสารหรือแร่ธาตุที่ตกตะกอนจากปัสสาวะในกระเพาะปัสสาวะ มีสาเหตุจากการที่มีปัสสาวะหลงเหลืออยู่ในกระเพาะปัสสาวะ โดยอาการจะร้ายแรงต่างกันออกไป อาทิเช่น ปวดท้อง หรือปัสสาวะมีเลือดผสม แต่ ก้อนนิ่วที่มีขนาดเล็กจะถูกขับออกมาทางปัสสาวะได้เองและไม่ก่อให้เกิดอาการใด ๆ แต่ว่าบางรายก็ต้องรักษาด้วยการกินยาหรือผ่าตัด เพราะว่าถ้าเกิดปล่อยไว้นานอาจจะก่อให้การติดเชื้อโรคหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
อาการของนิ้วในปัสสาวะ
อาการที่มักพบบ่อยในผู้ป่วยโรคนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เช่น
- การปัสสาวะเปลี่ยนไปจากปกติคล้ายกับอาการของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ตัวอย่างเช่น ปัสสาวะบ่อยครั้ง ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะมีเลือดผสม
- ปัสสาวะไม่ออกหรือออกทีละน้อย คือปัสสาวะไหล ๆ หยุด ๆ
- มีเม็ดนิ่วลักษณะก็จะคล้ายก้อนกรวดดินทรายปนออกมากับปัสสาวะ
- หากก้อนนิ่วไปขูดหรือเสียดสีกับผนังกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะจนกระทั่งเกิดแผล อาจจะทำให้มีการติดเชื้อโรคในระบบทางเดินปัสสาวะ ซึ่งผู้ป่วยอาจมีไข้ร่วมด้วย
ตัวการร้ายที่ทำให้เกิดนิ่ว
- พันธุกรรม โรคหลายชนิดที่มีการถ่ายทอดทางพันธุกรรม แล้วก็ส่งผลต่อการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ
- อายุ นิ่วพบบ่อยในกลุ่มวัยทำงาน อายุ 40 – 60 ปี
- เพศ นิ้วพบได้ทั่วไปในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 2-3 เท่า
- อาหาร ชนิดและจำนวนอาหารส่งผลต่อการขับสารบางประเภทออกมาในปัสสาวะที่มีทั้งสารก่อให้เกิดนิ่วแล้วก็สารยับยั้งการเกิดนิ่ว นิ่วเกิดได้ยังไง นิ่วเกิดขึ้นได้เนื่องมาจาก “สารก่อนิ่ว” ที่มีอยู่ในปัสสาวะของเรา อาทิเช่น แคลเซียม ฟอสเฟต ยูเรต ออกซาเลต ในภาวะที่มีปริมาณเปลี่ยนไปจากปกติแล้วก็สภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย สารเหล่านี้จะรวมตัวกันกระทั้งกลายเป็นก้อนผลึกแข็ง เมื่อสะสมนานวันเข้าก็มีขนาดใหญ่ขึ้น แล้วก็กลายเป็นก้อนนิ่วที่เข้าไปอุดตันที่บริเวณต่าง ๆ ของระบบทางเดินปัสสาวะ สารที่ป้องกันการก่อให้เกิดผลึกในปัสสาวะเรียกว่า “สารยับยั้งนิ่ว” ที่สำคัญดังเช่น สิเทรต โพแทสเซียม และก็แมกนีเซียม
- จำนวนน้ำที่ดื่ม เป็นปัจจัยหลักของการเกิดนิ่ว ทางปัสสาวะ ถ้าหากกินน้ำน้อยกว่า 2 ลิตรต่อวัน โอกาสการเป็นนิ่วจะสูงมากขึ้น
- ยาที่กินบางจำพวก
- สภาวะติดเชื่อในระบบทางเดินปัสสาวะ
- ความผิดปกติทางร่างกายส่วนของระบบทางเดินปัสสาวะ
ภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในปัสสาวะ
ภาวะแทรกซ้อนของนิ่วในปัสสาวะมีดังนี้
- ทางเดินปัสสาวะอุดตันจากก้อนนิ่วหลุดเข้าท่อปัสสาวะ ทำให้มีอาการปวดท้องรุนแรง ปวดเบ่งปัสสาวะมาก ปัสสาวะไม่ออก ทั้งนี้อาการต่าง ๆ จะเกิดขึ้นอย่างกะทันหันและมักรุนแรงจนต้องพบหมอเป็นการเร่งด่วน
- มักทำให้มีอาการอักเสบของกระเพาะปัสสาวะจากการได้รับเชื้อ ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งไว้เรื้อรังหรือก้อนนิ่วอยู่ในตำแหน่งอุดกั้นปากท่อไตที่เปิดเข้ากระเพาะปัสสาวะ อาจส่งผลให้กรวยไตอักเสบและก็ไตวายได้
- การอักเสบติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะจากนิ่วบางทีอาจแพร่กระจายจนถึงมีการอักเสบติดเชื้อของไตหรือการได้รับเชื้อในกระแสเลือดหรือภาวะพิษเหตุติดเชื้อได้
นิ้วในปัสสาวะรักษาอย่างไรไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีก
- การเอานิ่วออก ในกรณีที่ก้อนนิ่วมีขนาดเล็กมาก หมออาจจะเริ่มต้นจากการแนะนำให้คนไข้กินน้ำมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายขับนิ่วออกมาเองตามธรรมชาติ แต่ว่าโดยทั่วไปแล้วการเอานิ่วออกสามารถทำได้ 3 วิธีดังนี้ เป็น
- การส่องกล้องผ่านท่อปัสสาวะ (C ystolitholapaxy) โดยหมอจะส่องกล้องเข้าไปในท่อปัสสาวะเพื่อขบนิ่วให้แตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วให้หลุดไหลออกมากับน้ำปัสสาวะ
- การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก ( Extracorporeal Shock Wave Lithotripsy : ESWL) คือการใช้คลื่นเสียงส่งผลให้เกิดแรงกระแทกที่ก้อนนิ่วจนก้อนนิ่วแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วก็หลุดไหลออกมากับน้ำปัสสาวะ
- การผ่าตัด ใช้ในกรณีที่ก้อนนิ่วมีขนาดใหญ่ หรือเป็นนิ่วเขากวางที่มีกิ่งก้านหลายกิ่งจนไม่อาจจะคัดแยกออกด้วยวิธีอื่นได้
- รักษาที่ต้นเหตุของโรค เพราะการเอานิ่วออกเพียงอย่างเดียวโดยไม่ได้ปรับปรุงแก้ไขที่ต้นเหตุของการเกิดโรคอาจจะก่อให้ผู้ป่วยกลับมาเป็นนิ่วซ้ำได้อีก ซึ่งการดูแลรักษาที่สาเหตุนี้ได้แก่
- ถ้านิ่วมีต้นเหตุมาจากการมีปัสสาวะคั่งค้างในกระเพาะปัสสาวะ หมอจำเป็นต้องตรวจวิเคราะห์ให้แน่ชัดว่าการคั่งค้างนั้นมีต้นเหตุจากอะไรแล้วทำการรักษาไปพร้อมกัน ได้แก่ ผ่าตัดต่อมลูกหมากโดยใช้วิธีส่องกล้องในกรณีที่ เกิดจากต่อมลูกหมากโต หรือทำการขยายท่อปัสสาวะในกรณีที่มีการตีบตัน
- ถ้าหากนิ่วเกิดจากการที่กระเพาะปัสสาวะทำงานไม่ดีเหมือนปกติ อย่างเช่น บีบตัวไม่ดี ผู้ป่วยอาจจำเป็นต้องใช้สายสวนสำหรับการช่วยปัสสาวะ
การป้องกันนิ่วในปัสสาวะได้อย่างไร
การป้องกันนิ่วในปัสสาวะควรจะกินน้ำสะอาดให้มาก ๆ เพื่อเป็นการป้องกันและไม่ให้ปัสสาวะมีความเข้มข้นมากจนเกินไป จนตกตะกอนเป็นนิ่ว โดยหมอแนะนำว่าให้กินน้ำประมาณวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างต่ำ นอกเหนือจากนั้นการจำกัดอาการที่มีแคลเซียม และออกซาเลตสูง ก็ช่วยลดการเสี่ยงสำหรับการเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะได้ด้วยเหมือนกัน
ถ้าหากใครมีอาการปวดท้องน้อยบ่อย ๆ รวมทั้งรู้สึกตัวว่ากินน้ำน้อย หรือปัสสาวะไม่ปกติ อย่าลืมปรึกษาแพทย์โดยเร็ว ก่อนจะมีอาการหนักไปมากกว่าเดิม เพื่อที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างทันเวลานะคะ
บทความแนะนำ ลดพุง By Rattinan.com