เครียดลงกระเพาะ มีต้นเหตุที่เกิดจากการที่เรามีความเคร่งเครียดมากจนทำให้ฮอร์โมนภายในร่างกายเกิดความปรวนแปรและเส้นเลือดบีบตัวทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก ซึ่งก็เป็นผลให้กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติจนกระทั่งทำให้กระเพาะเป็นแผลและก็ลำไส้บีบตัวอย่างรุนแรงนั่นเอง
เครียดลงกระเพาะภัยใกล้ตัวของคนคิดมาก
เรามักได้ยินว่าโรคกระเพาะมีสาเหตุจากการกินอาหารไม่ตรงเวลาหรือการกินอาหารรสจัด แต่ว่าในระยะหลัง ๆ ผู้ที่ทานอาหารตรงเวลาก็เป็นโรคนี้ได้เพราะว่าเมื่อเกิดความเคร่งเครียดสะสมมาก ๆ ร่างกายจะสั่งให้กระเพาะหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ จนกัดกระเพาะเกิดเป็นอาการปวดท้อง นอกเหนือจากนั้นความตึงเครียดยังมีผลต่อระบบทางเดินอาหารในอาการแบบอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกรดไหลย้อน ลำไส้ปรวนแปร ลำไส้อักเสบ หรือแม้กระทั่งอาหารไม่ย่อยก็เกิดจากความเคร่งเครียดได้เช่นเดียวกัน
เครียดลงกระเพาะ แท้จริงแล้วก็คือโรคกระเพาะที่ไม่ได้เป็นผลมาจากการกินอาหารไม่ตรงเวลา แต่ว่าเป็นการสั่งการของสมองนั่นเอง
ความเครียดส่งผลต่อระบบย่อยอาหารอย่างไร
อวัยวะในระบบย่อยอาหารเป็นส่วนที่อ่อนไหวและมีเส้นประสาทจำนวนมาก ความเคร่งเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่นำมาซึ่งการทำให้เส้นประสาท สั่งการให้โลหิตไหลเวียนช้าลง ทำให้กล้ามเนื้อในระบบย่อยอาหารทำงานแย่ลง แล้วก็ทำให้เกิดผลเสียอื่น ๆ ตามมา ดังต่อไปนี้
- หลั่งกรดที่จำเป็นต่อการย่อยลดลง ส่งผลให้มีภาวะอาหารไม่ย่อยหรือท้องอืด ท้องเฟ้อได้
- ระบบภูมิต้านทานทำงานลดน้อยลง ทำให้มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อในระบบทางเดินอาหารได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
- กล้ามเนื้อหลอดอาหารหดเกร็งและก็มีกรดในกระเพาะมากยิ่งขึ้น ซึ่งทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย
- ท้องเดินหรือท้องผูก เหตุเพราะลำไส้ใหญ่สนองตอบต่อความเคร่งเครียดที่เกิดขึ้น
- มีอาการแสบร้อนกึ่งกลางอกรวมทั้งกรดไหลย้อน เนื่องมาจากระบบที่ทำหน้าที่สำหรับการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดีซักเท่าไหร่ และมีการบีบตัวของหลอดอาหารเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
- มีแบคทีเรียชนิดไม่ดีเพิ่มมากขึ้นกว่าแบคทีเรียชนิดที่ดี ซึ่งอาจจะส่งผลให้ระบบการทำงานด้านการย่อยอาหารทำงานได้ไม่ดี
นอกจากนี้ การเกิดความตึงเครียดยังกระตุ้นให้อาการของโรคที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหารแย่ลงได้ ตัวอย่างเช่น โรคลำไส้ปรวนแปร แผลในกระเพาะ ลำไส้อักเสบ เป็นต้น
เครียดลงกระเพาะรับมืออย่างไรให้ได้ผล
การจัดการกับความเครียดเป็นวิธีทุเลาอาการจากภาวะเครียดลงกระเพาะที่ได้ผล และสามารถทำได้ด้วยตัวเอง เพียงแค่ทดลองเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมบางอย่าง หมั่นทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย และพยายามขจัดปัญหาต่าง ๆ อย่างค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปและการขจัดปัญหากับความเครียด มีดังนี้
1.การออกกำลังกาย
การออกกำลังกายกระตุ้นการหลั่งสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารเคมีในสมองที่ช่วยคลายเครียดและก็ทำให้จิตใจเบิกบานขึ้น ทั้งช่วยทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีอีกด้วย
2.ทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด
ดังเช่น เล่นโยคะ ฟังเพลง วาดภาพ ท่องเที่ยว วิธีการทำกิจกรรมเหล่านี่สามารถทำให้พวกเราลืมความเคร่งเครียดได้อย่างดีเยี่ยมและก็พร้อมที่จะสนุกสนานไปกับมัน
3.ฝึกสมาธิและการหายใจ
ทำได้โดยนั่งในท่าที่รู้สึกสบายแล้วก็หายใจเข้าหายใจออกอย่างช้า ๆ ต่อจากนั้นหลับตา เพ่งสมาธิไปที่ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทีละส่วน เริ่มจากหัวและไปหยุดที่กลางลำตัวหรือบริเวณท้อง เพื่อให้รู้สึกถึงขั้นตอนต่าง ๆ ตามธรรมชาติที่กำลังเกิดขึ้นภายในร่างกาย
4.พูดคุยระบายความเครียด
การปรึกษาหารือและขอคำแนะนำเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่อยู่รอบข้าง เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยทำให้รู้สึกบันเทิงใจขึ้นได้
5.หลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่เป็นผลดีสำหรับสุขภาพ
อาหารบางประเภททำให้เกิดผลเสียและไม่ดีต่อระบบย่อยอาหาร อีกทั้งอาจเป็นต้นเหตุให้เกิดความเคร่งเครียดได้ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารขยะ อาหารที่มีน้ำตาลหรือไขมันสูง และเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ทุกชนิดควรจะกินนมเปรี้ยวและโยเกิร์ตให้บ่อยขึ้น เพราะว่ามี Probiotics ซึ่งเป็นจุลินทรีย์ที่ช่วยทำให้สมดุลของแบคทีเรียภายในร่างกาย และทำให้ระบบต่าง ๆ ทำงานได้ดีขึ้น
6.จัดตารางงานอย่างเหมาะสม
ไม่ทำงานหนักเกินความจำเป็นจนกระทั่งไม่มีเวลาพักผ่อน และแบ่งสันงานที่ต้องทำให้เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ หากมีงานจำเป็นต้องรับผิดชอบเยอะเกินไปจนเกิดความเครียด ควรจะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างาน
7.หาแนวทางที่เหมาะสมสำหรับในการขจัดปัญหา
การเจอปัญหาบางสิ่งนำมาซึ่งความเคร่งเครียดและความวิตกกังวลได้ การแก้ไขที่ต้นเหตุของความตึงเครียดจึงนับเป็นแนวทางการรับมืออย่างถูกจุด
8.หลีกเลี่ยงการจัดการกับความตึงเครียดด้วยแนวทางที่ไม่ถูก
ยกตัวอย่างเช่น ดูดบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพราะว่าไม่ได้ช่วยทำให้ดียิ่งขึ้น กลับยิ่งเกิดโทษต่อระบบย่อยอาหาร
เครียดหนักเสี่ยงต่อการเกิดโรค
มีสาเหตุจากการใช้ชีวิตประจำวันที่เราทำเป็นกิจวัตรประจำวัน ซึ่งในตอนนี้มนุษย์เรามักเจอความเคร่งเครียดอยู่เป็นประจำ ทำให้เกิดความเคร่งเครียดทับถมท่วมท้นจนน่าเป็นห่วงสุขภาพจิต นอกเหนือจากผลเสียทางสุขภาพจิตแล้ว สุขภาพที่เกิดขึ้นกับร่างกาย โรคภัยหลายชนิดอาจตามมา ความเคร่งเครียดมีส่วนให้เกิดโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับทางเดินอาหาร อาทิเช่น กระเพาะเป็นแผล ความดันเลือดสูง โรคมะเร็ง และโรคเหล่านี้ล้วนอันตรายทั้งนั้น ทางที่ดีควรหาเวลาว่างผ่อนคลายความเครียดบ้าง เพื่อห่างไกลจากโรคเหล่านี้
การที่เรารับทราบถึงสาเหตุของความเครียดนั้น นับว่าเป็นวิถีทางสำหรับในการป้องกันความตึงเครียดได้ดีทีเดียว และก็ยังสามารถจัดการกับปัญหากับความเครียดได้ถูกจุดอีกด้วย สิ่งจำเป็นที่ทำให้เราไกลห่างจากความเคร่งเครียดก็คือ การดูแลร่างกายและจิตใจของเราให้ดี หมั่นบริหารร่างกาย ทานอาหารที่มีประโยชน์ แล้วก็พักผ่อนให้เพียงพอ เพียงเท่านี้ก็จะสามารถช่วยทำให้ความเคร่งเครียดในจิตใจของเราดียิ่งขึ้น
